วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

มะละกอของดีมีประโยชน์



          มะละกอ (Papaya) เป็นเป็นผักหรือผลไม้ที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่ง ต้นมะละกอมักมีความสูงประมาณ 1-10 เมตร ซึ่งก็แล้วแต่สายพันธ์ของมะละกอ มะละกอมีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลาง ก่อนจะแพร่ออกไปในทวีปต่างๆในเวลาต่อมา  ผลดิบของมะละกอนั้นเปลือกจะมีสีเขียวเข้ม เนื้อในเป็นสีขาวอมเขียว คนไทยเราจะนิยมนำมะละกอดิบมาทำเป็นอาหารชนิดต่างๆ เช่น ส้มตำ(อาหารยอดฮิตของคนไทย) หรือแกงส้มมะละกอ เป็นต้น  เมื่อผลสุกแล้วเปลือกจะมีสีเหลืองหรือสีแสดเนื้อในจะมีสีเหลืองถึงส้ม เนื้อในจะนิ่มและมีรสชาดที่ดี นอกจากนี้มะละกอสุกยังมีประโยชน์ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วยนะครับ



วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิธีทำน้ำฝรั่งแบบง่ายๆ

ส่วนผสม
- ฝรั่งแก่จัด(หั่นชิ้นเล็กๆ) 30 กรัม ( 2 ช้อนคาว )
- น้ำต้มสุก 200 กรัม ( 14 ช้อนคาว )
- น้ำเชื่อม 15 กรัม ( 1 ช้อนคาว )
- เกลือป่นเล็กน้อย 2 กรัม ( 2/5 ช้อนชา )
วิธีทำ
เลือกฝรั่งที่แก่จัด ล้างน้ำสะอาด ฝานเนื้อชิ้นเล็กๆนำใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก ปั่นจน ละเอียดแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเติมน้ำเชื่อมและเกลือป่นเล็กน้อย ชิมรสตามใจชอบ  แค่นี้ก็ได้ดื่มน้ำฝรั่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้วครับ

ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับจากน้ำฝรั่งครับ
คุณค่าทางอาหาร : มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและมีสาร เบต้า-แคโรทีน ช่วยลดสารพิษในร่างกาย ทั้งยังป้องกันไม่ให้ไขมันจ้บที่ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเลือดแข็งตัว 
คุณค่าทางยา : ช่วยลดระดับไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยเส้นเลือดอุดตัน
          น้ำฝรั่ง ทำดื่มได้ง่ายๆแบบนี้  เพื่อนๆอย่างลืมลองทำดื่มกันนะครับ

ใบฝรั่งก็มีประโยชน์นะ

ใบฝรั่งแก้ท้องร่วงและดับกลิ่นปากได้
          ใบฝรั่งมีฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร ลดการบีบรัดตัวของลำไส้ เพราะมีสารแทนนิน จัดเป็นยาสมาน รักษาอาการท้องร่วงเฉียบพลันได้ดี ซึ่งเห็นนักเภสัชศาสตร์ มักนำยอดอ่อนของฝรั่ง ปิ้งไฟต้มน้ำดื่ม หรือใช้ใบฝรั่ง 10-15 ใบ บดผสมน้ำ 1 แก้ว กรองแล้วต้ม 3 นาที เหยาะเกลือ ดื่มแก้ปวดท้อง และ ยังสามารถดับกลิ่นปาก ดับกลิ่นลมหายใจเหม็นได้ด้วย  นอกจากนี้ในใบฝรั่งยังมีสาร quercetetin มีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์สาร postaglandin ใช้รักษาโรคอหิวาตกโรคต่อประสาท มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีนป้องกันโรคลักปิดลักเปิด มีวิตมินซีมากต้านเชือแบคที่เรียและไวรัส



          ดังนั้น ใบฝรั่งจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางยามากมายหลายอย่าง เช่น แก้ท้องร่วง ล้างแผลสด แก้เหงือกบวม พิษเรื้อรัง ดูดหนองฝี รักษาโรคตามผิวหนัง แก้แพ้ยุง ดับกลิ่นปาก กลิ่นสุรา ผสมปรุงกลิ่นเครื่องสำอาง และน้ำยาบ้วนปาก เป็นต้น

ประโยชน์ของฝรั่ง

          ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินซี และวิตามินเอ  ซึ่งมีมากกว่ามะนาวถึง 4 เท่า ทำให้ฝรั่งมีคุณค่าในการสร้างความต้านทานโรคหวัดได้เป็นอย่างดี  นอกจากนี้ยังมีการแนะนำให้รับประทานฝรั่งเพื่อลดความอ้วนเพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีความกรอบ เคี้ยวเพลิน และไม่เพิ่มน้ำหนัก
คุณค่าทางอาหารประกอบด้วย วิตามินเอ,วิตามินซี, B1,B2,แคลเซียม,ฟอสฟอรัส,นอกจากนี้ยังมีสารพวกเพคตินและแทนนิน (TANNIN) จำนวนมากด้วย

สำหรับคุณประโยชน์ทางอาหารสรุปได้ดังนี้
วิตามินซีและวิตามินเอ  ช่วยให้มีความต้านทานต่อโรคหวัดเพิ่มขึ้น บำรุงเหงือกและฟัน , ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
สารเพคติน (PECTIN)  เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้ท้องผูกได้ดี
สารแทนนิน (TANNIN)  มีฤทธิ์เป็นยาฝาดสมาน สามารถบรรเทาอาการท้องร่วงและห้ามเลือดได้  ช่วยสมานแผลและบรรเทาอาหารเจ็บคอ นอกจากนี้ยังช่วยระงับกลิ่นปากและรักษาแผลเรื้อรังเช่น น้ำกัดเท้า และผื่นคันจากผิวหนังที่ถูกใบไม้คันได้ด้วย
          กินฝรั่งแล้วรับรองดีต่อสุขภาพแน่นอนครับ  แล้วอย่าลืมออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะครับ

เพื่อนๆชอบรับประทานฝรั่งกันหรือเปล่า?

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับผลไม้ชนิดนี้กันก่อนครับ
          ฝรั่งเป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดเล็ก ลักษณะทั่วไปของต้นคือ กิ่งอ่อนจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม ยอดอ่อนมีขนสั้นๆอยู่ทั่วใบ ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงกันข้ามกันมีสีเขียว รูปใบยาวรี ปลายใบมน หรือมีกิ่งแหลม โคนใบมน ออกดอกเป็นช่อ ช่อละ  2-3 ดอก ดอกย่อยจะมีสีขาว มีเกสรตัวผู้เป็นฝอยเล็กๆจำนวนมาก

          ผลดิบจะมีสีเขียวใบไม้หรือเขียวเข้ม มักมีรสฝาดไม่อร่อย เมื่อสุกจะเป็นสีเขียวอ่อนปนเหลือง จะมีรชชาดที่ดีซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ของฝรั่งด้วยครับ เนื้อในเป็นสีขาวและมีกลิ่นเฉพาะ ข้างในจะมีเมล็ดเล็กๆจำนวนมากอยู่ครับ

ส้ม

          ส้ม เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็กหลายชนิดในสกุล Citrus วงศ์ Rutaceae มีด้วยกันนับร้อยชนิด เติบโตกระจายอยู่ทั่วโลก โดยมากจะมีน้ำมันหอมระเหยในใบ ดอก และผล และมีกลิ่นฉุน หากนำใบขึ้นส่องกับแสงแดด จะเห็นจุดเล็กๆ เต็มไปหมด ซึ่งจุดเหล่านั้นก็คือแหล่งน้ำมันนั่นเอง ส้มหลายชนิดรับประทานได้ ผลมีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม ไวตามินเอ และไวตามินซี มากเป็นพิเศษ 

          ส้มเป็นผลไม้ที่คนไทยรู้จักกันดี เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีผลผลิตตลอดปี มีจำหน่ายในตลาดทั่วไป ราคาไม่แพงสำหรับผู้บริโภคทุกชนชั้น และมีคุณค่าทางอาหารสูง ผลของการวิเคราะห์สารอาหารจากส้ม 100 กรัม โดยกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ประกอบด้วยสารอาหารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจำนวนมาก กล่าวคือ
    คาร์โบไฮเดรต 9.90 กรัม, โปรตีน 0.60 กรัม, ไขมัน 0.20 กรัม, แคลเซียม 31.00 มิลลิกรัม, เหล็ก 0.80 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 18.00 มิลลิกรัม, วิตามินเอ 4,000 หน่วยสากล, วิตามินบี 1  0.40 มิลลิกรัม, วิตามินบี 2  0.50 มิลลิกรัม, วิตามินซี 18.00 มิลลิกรัม, เส้นใย 0.02 กรัม, ความชื้น 88.70 กรัม, แคลอรี 44 หน่วย
    ดังนั้น ผลส้มหนัก 100 กรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักเฉลี่ยของผลส้มเพียง 1 ผล จะประกอบด้วยสารอาหารที่สำคัญ คือ แคลเซียม 31 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม วิตามินซี 18 มิลลิกรัม วิตามินเอ 4,000 หน่วย จึงจัดว่าส้มเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพชนิดหนึ่งที่มีราคาไม่แพง และเหมาะสำหรับการบริโภคประจำวันครับ






 

ผลไม้คืออะไร

          ผลไม้ สิ่งที่เป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นจากพืช โดยลักษณะรวมๆ จะมีรูปทรงคล้ายทรงกลมหรือทรงรี ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันบ้างตามสายพันธุ์ โดยปกติผลไม้จะต้องมีเปลือกหรือมีสิ่งที่ห่อหุ้มเนื้อที่อยู่ข้างใน โดยปรกติผลไม้แต่ระชนิดจะมีความแตกต่างกันทั้งขนาดของผล ลักษณะของเปลือกมเนื้อในและเมล็ด



          การรับประทานผลไม้นั้นควรรับประทานในขณะที่กำลังสุกพอดี  ไม่ควรปล่อยให้ผลไม้สุกงอมมากจนเกินไป  เพราะถ้าผลไม้สุกงอมเต็มที่จะมีลักษณะที่ก่อให้เกิดประโยชน์ได้น้อยลง เช่น เน่าเสีย บูด ขึ้นรา เป็นต้น

มาทานส้มกันครับ


รับประทานส้มป้องกันมะเร็ง
          จากรายงานการศึกษาของหลายชาติ เรื่องการบริโภคผลไม้จำพวกมะนาว หรือส้ม ให้ประโยชน์แก่สุขภาพ สรุปได้ว่า "กินส้มวันละใบ จะช่วยผลักไสโรคมะเร็งบางชนิดให้พ้นตัวไปได้"   นัก วิจัยขององค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมเครือจักรภพของรัฐบาล ออสเตรเลีย ระบุว่า การกินผลไม้พวกมะนาวหรือส้ม จะช่วยป้องกันมะเร็งที่ปาก กล่องเสียง และกระเพาะลงได้ครึ่งหนึ่ง และยิ่งกินผักผลไม้วันละ 5 มื้ออยู่เป็นประจำแล้ว ก็จะยิ่งช่วยให้ป้องกันอัมพาตได้อีกโรคถึง 19 เปอร์เซ็นต์
          ผลไม้จำพวกมะนาวหรือส้ม ช่วยป้องกันโรคของร่างกายได้เพราะคุณสมบัติเป็นตัวล้างพิษของมัน พร้อมทั้งบำรุงระบบภูมิ คุ้มโรคให้แข็งแรง ขัดขวางเนื้อร้ายไม่ให้ลุกลาม และรักษาเซลล์เนื้อร้ายให้กลับคืนดีได้อีกด้วย


มาดื่มน้ำส้มคั้นกันเถอะ

           เมื่อพูดถึงประโยชน์ของน้ำส้มคั้นเพื่อน ๆ คงจะนึกถึง  วิตามินซี  เป็นอันดับแรกใช่ไหมครับ  แต่ความจริงที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งอองตาริโอตะวันตกค้นพบว่า  สารอาหารในน้ำส้มคั้นยังช่วยเพิ่มคอเรสเตอรอลดี  ที่สามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้  และเมื่อเร็ว ๆ  นี้  องค์การอาหารและยาหรือ  FDA  แห่งสหรัฐอเมริกายังออกประกาศ  รับรองให้ผู้ผลิตน้ำสัมคั้น  สามารถระบุในฉลากว่า  น้ำส้มคั้นมีโพแทสเซี่ยมสูง  ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงและเส้นเลือดในสมองอุตตัน เห็นอย่างนี้แล้วเราหันมาดื่มน้ำส้มคั้นแทนน้ำอัดลมดีกว่านะครับ  เพราะนอกจากจะมีวิตามินซีแล้วยังมีสารอาหารอื่นๆที่ช่วยป้องกันโรคอีกด้วยครับ

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ผลไม้มีประโยชน์อย่างไร


         ผลไม้ ชะลอความแก่ เสริมความงาม คนเราจะแก่เร็วหรือช้าขึ้นกับสภาพการทำงานของระบบการสร้างเซลล์ และระบบภูติต้านทาน (immune system) สองระบบนี้ช่วยกันทำงาน ต่อสูความเจ็บป่วย โรมรันกับสารพิษและเชื้อโรคแปลกปลอมที่เข้าสู่ในร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอหรือถูกทำลาย อีกทั้งสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อใหม่เมื่อระบบเซลล์และระบบภูมิต้านทานทำงาน ได้ดี การแก่ตัวจะเกิดขึ้นน้อยมาก แต่โดยทั่วไป ความแปรปรวนของชีวเคมีในร่างกายอันเนื่องจากความเครียด สารพิษจากสิ่งแวดล้อมการใช้แรงกายที่หนักหักโหมเกินกำลัง รวมทั้งอาหารที่กิน มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ระบบทั้งสองเสื่อมโทรมลง ส่งผลให้แก่เร็วขึ้น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์โภชนาการพบว่า เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี และซีลีเนียม สามารถต้านความชราภาพได้ด้วย แอนติออกซิแดนท์เหล่านี้ช่วยป้องกันและลดความเสื่อมของเซลล์อันเนื่องมาจาก ปฏิกิริยาลูกโซ่ของอนุมูลอิสระ (free radicals) ธำรงความแข็งแรงของระบบเซลล์ไว้ได้นาน ดังนี้ ผลไม้ที่สารต้านอนุมุลอิสราจึงช่วยชะลอความแก่ ผลไม้ยังช่วยให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรง ก็เท่ากับรักษาระบบภูมิต้านทานให้ไม่ต้องถูกใช้งานหนัก ก็เท่ากับช่วยชะลอความแก่ไปโดยปริยาย คนกินผลไม้มาก ๆจะเห็นผลทันตา ผิวหนังจะเต่งตึงความเหี่ยวย่นจะปลาสนาการไป รูปหน้าที่สวยจริงก็จะปรากฎไม่ถูกบดบังทำอัปลักษณ์ใบหน้ากางด้วยน้ำและไขมัน รอยย่นจะบางเบา นัยน์ตาจะใสและแจ่มจรัส ผลไม้มิได้ชะลอความแก่แต่ระดับผิว (เผิน) เท่านั้น เพราะผิวเป็นเพียงตัวบ่งบอกสุขภาพคนกินผลไม้มากจะมีโคเลสเตอรอลพอเหมาะ ความดันโลหิตพอดี ตับไตแข็งแรง ทั้งหมดนี้ส่งผลบวกโดยตรงต่อผิวพรรณดังนั้น สุขภาพ ผิวพรรณ ความงาม และการชะลอความแก่จึงเป็นเรื่องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันมาก นอกจากนั้น วิตามินซีและวิตามินเอยังช่วยให้ผิดเต่งตึงมีน้ำมีนวลโตยตรงอีกโสตหนึ่งด้วย ผลไม้ช่วยรักษาอาการเสื่อยสภาพบางอย่างอันเนื่องมาจากวัยได้ เช่น กินผลไม้ช่วยในสมรรถภาพพทางเพศไม่เสื่อมเร็ว ช่วยป้องกันอาการหลงลืมตามวัย เป็นต้น ในด้านสุขภาพผู้หญิง มีรายงานว่าวิตามินซีและไบโอฟลาโวนอยด์ (bioflavonoids) ในผลไม้ตะกูลส้ม (ที่ใส้หรือแกนของกลีบผล) ช่วยลดการเสียเลือดประจำเดือนให้น้อยและสั้นลงจนไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป